คุณรู้หรือไม่ว่า ยูนิลีเวอร์ ลดต้นทุนไปได้ถึง 47,000 ล้านบาท (1,500 ล้านดอลล่าสหรัฐ) จากการทำการจัดซื้อจัดจ้างแบบยั่งยืน (sustainable procurement) ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน ในปีแรก ยูนิลีเวอร์สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน (Renewable electricity) ในการทำงานได้สำเร็จซึ่งทำให้ยูนิลีเวอร์ประสบความสำเร็จอย่างมากในการประหยัดต้นทุน อีกทั้งในปี 2562 ยูนิลีเวอร์ลดการใช้พลาสติกผลิตใหม่หรือ virgin plastic ลงและหันมาใช้พลาสติกประเภทรีไซเคิลได้มากขึ้น มาดูกันดีกว่าว่าอะไรคือแรงผลักดันให้ยูนิลีเวอร์เป็นผู้นำทางด้านความยั่งยืน
ทำไมถึงลงทุนในการทำธุรกิจที่ยั่งยืน (sustainable business)
คุณ Alan Jope – CEO ของยูนิลีเวอร์ได้กล่าวไว้ มีใจความว่า มันยากที่จะหาคำตอบได้ว่าทำไมถึงลงทุนในการทำ sustainability แต่เรามองเห็นว่าการทำ sustainability ทำให้บริษัทได้รับผลประโยชน์มากมายถึงแม้ว่ามันก็มีการลงทุนที่ต้องเสียไปในตอนต้น แต่สุดท้ายผลที่ได้จะไม่ทำให้เราเสียใจ
สำหรับยูนิลีเวอร์เอง การทำ Risk-Benefit assessment หรือ การประเมินคุณประโยชน์และความเสี่ยงจะช่วยในการตัดสินใจว่าจะลงทุนในการทำธุรกิจให้ยั่งยืนเท่าไหร่ ยูนิลีเวอร์ได้ลงทุนทำไปแล้วในหลายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน การนำพลาสติกกลับมาใช้ใหม่ การจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืนและการทำการเกษตรอย่างยั่งยืน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือ ยูนิลีเวอร์สามารถลดต้นทุนไปได้หลายล้านบาท พร้อมกับสามารถเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมนี้อีกด้วย
นอกจากนี้แล้วยูนิลีเวอร์ยังมี Unilever Sustainable Living Plan (USLP)
Unilever Sustainable Living Plan (USLP) คือแผนการที่จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคมโดยมีเป้าหมายที่จะสอดคล้องกับเป้าหมายพัฒนาความยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) ยูนิลีเวอร์ได้ทำแผนนี้มาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว 3 เป้าหมายหลักของแผนนี้คือ
- ปรับปรุงพัฒนาสุขภาพของคนกว่า 1,000 ล้านคนภายในปี 2563 โดยการเพิ่มโภชนการในอาหาร และสนับสนุนการมีสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากโรค
- ลดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมลงไปครึ่งนึงในกระบวนการผลิตสินค้าภายในปี 2573 โดยการลดก๊าซเรือนกระจก ลดปริมาณการใช้น้ำ ลดขยะ และทำการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน
- ทำให้ชีวิตของคนเป็นล้านคนดีขึ้นภายในปี 2563 โดยการให้การศึกษา ให้โอกาสแก่ผู้หญิงในการทำงานอย่างเท่าเทียมกัน
จะเห็นได้ว่ายูนิลีเวอร์ได้มองธุรกิจของเขาทั้ง 360 องศาเพื่อที่จะผลักดันให้องค์กรเป็นผู้นำทางด้านความยั่งยืน