ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่อง “Sustainability” หรือ “ความยั่งยืน” ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในการทำธุรกิจที่ผู้คนให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ เรียกได้ว่าหากธุรกิจไม่ให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนอาจจะส่งผลเสียในระยะยาวต่อธุรกิจและสังคม เรื่องความยั่งยืนจึงเป็นอีกแรงผลักดันหนึ่งที่ทำให้ภาคธุรกิจตื่นตัวและมุ่งหน้าสู่ความยั่งยืนกันมากขึ้น
ในโลกของซัพพลายเชน เราก็มีเรื่องของความยั่งยืนเช่นกันที่เรียกว่า “Sustainable supply chain management” หรือ “ความยั่งยืนด้านการจัดการซัพพลายเชน” เรียกได้ว่าในบริษัทเอง การทำ sustainable supply chain management ถือว่าเป็นตัวละครหลักที่สำคัญเพราะนั่นหมายถึงการทำให้บริษัทยั่งยืนตั้งแต่การพัฒนาสินค้า การเลือกวัตถุดิบ (ต้นน้ำ) ไปถึงจนถึงขั้นตอนการผลิตและการจัดส่งสินค้า (ปลายน้ำ) กระบวนการเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับซัพพลายเชนทั้งสิ้น ต่อไปเรามาทำความรู้จักความยั่งยืนด้านการจัดการซัพพลายเชน กันดีกว่าว่าคืออะไร ทำได้อย่างไร และทำไมถึงต้องทำ
ความยั่งยืนด้านการจัดการซัพพลายเชนคืออะไร (What is sustainable supply chain management?)
ความยั่งยืนด้านการจัดการซัพพลายเชนคือการคำนึงถึงปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมตลอดในทุกๆขั้นตอนในวงจรของซัพพลายเชน (Supply chain life cycle) ตั้งแต่เริ่มต้นพัฒนาสินค้า การเลือกวัตถุดิบ การผลิต การแพ็คสินค้า การขนส่ง การจัดการคลังสินค้า การกระจายสินค้า ไปจนถึงการใช้และการจัดการซากผลิตภัณฑ์หลังใช้ การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มต้นจนจบนอกจากจะทำให้องค์กรสามารถลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (carbon footprint) ได้ และยังสามารถทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถลดต้นทุนได้ในที่สุด
เราจะสามารถทำ sustainable supply chain management จากอะไรได้บ้าง?
เราสามารถทำได้จากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น
- ภาวะการให้บริการดูแลสิ่งแวดล้อม (Environmental stewardship): ความรับผิดชอบในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติเพื่อรับประกันว่าทรัพยากรธรรมชาติมีการจัดการอย่างยั่งยืนสำหรับชุมชนรุ่นอายุปัจจุบันและอนาคตต่อไป ซึ่งประกอบด้วย การนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycling) การอนุรักษ์ (Conservation) การทำให้เกิดขึ้นใหม่ (Regeneration) และการให้คงสภาพเดิม (Restoration)
- การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (Conservation of resources): การสงวนรักษาและรู้จักใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้ได้ประโยชน์และเกิดคุณค่ามากที่สุด รวมทั้งการปรับปรุงของเสียให้นำกลับมาใช้ใหม่เพื่อให้เกิดการสูญเปล่าน้อยที่สุด
- การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Reduction of carbon footprint): การลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การขนส่ง การใช้งานและการจัดการซากผลิตภัณฑ์หลังใช้
- การจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน (Sustainable procurement): กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่พิจารณาด้านราคา การส่งมอบ และมีคุณสมบัติที่ครอบคลุมประเด็นทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและเศรษฐกิจที่ช่วยลดผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม และเป็นการรับผิดชอบต่อผู้เกี่ยวข้องในซัพพลานเชน
- ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) การปกป้องและใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า เช่น การสนับสนุนคู่ค้าที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
- ด้านสังคม (Social) การจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงสิทธิมนุษยชนเป็นหลัก เช่น การต่อต้านการใช้แรงงานที่ผิดกฎหมาย เช่น แรงงานทาส แรงงานเด็ก
- ด้านเศรษฐกิจ (Economics) การรักษาเสถียรภาพและการเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน รวมไปถึงการมีบรรษัทภิบาลและการต่อต้านคอร์รัปชั่น เช่น การต่อต้านการติดสินบนและการต่อต้านคอร์รัปชั่นทุกกรณี
เหตุผลที่ต้องทำ sustainable supply chain management?
เป็นที่ชัดเจนว่าตั้งแต่กระบวนการจัดซื้อ การผลิต การขนส่ง การบริโภค การกำจัดของเสียล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น การบริหารความยั่งยืนด้านการจัดการซัพพลายเชนนั้นจึงมีความสำคัญมากและไม่ใช่เรื่องยากเลยที่บริษัทจะเริ่มต้นทำ นอกจากนี้การทำให้ซัพพลายเชนอย่างยั่งยืนจะทำให้บริษัทสามารถเพิ่มขีดการแข่งขันได้มากขึ้นเพราะเทรนด์ทั้งโลกกำลังให้ความสนใจเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น บริษัทจะมีชื่อเสียงที่ดีเพราะมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
จากข้อมูลข้างต้นที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า sustainable supply chain management นั้นจะทำให้บริษัทสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเองไปได้ในระยะยาวโดยที่ส่งผลกระทบถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ซัพพลายเชน กูรู ขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความยั่งยืนด้านการจัดการซัพพลายเชน (Sustainable supply chain management) โดยการนำเกร็ดความรู้ ข่าวสารต่างๆรอบโลกมาแชร์เพื่อสร้างความตระหนักถึงความยั่งยืนด้านซัพพลายเชน และเพื่อให้ผู้สนใจได้อัพเดทข่าวสารที่ใหม่และมีประโยชน์เสมอ