4 วิธีแก้ไขปัญหาสินค้าคงคลังไม่ตรง (สต๊อกดิฟ)

Supply Chain Guru Logo 1
forklift carrying inventory

จากบทวิเคราะห์เรื่อง “3 สาเหตุหลักที่ทำให้สินค้าคงคลังไม่ตรง หรือ สต๊อกดิฟ” มานั้น 3 สาเหตุหลักๆนั้นเกิดจากการขาดกระบวนการทำงาน (Procedure) ที่ชัดเจน การหย่อนในวินัยของพนักงานผู้รับผิดชอบ และการที่พื้นที่และแผนผังของคลังสินค้าไม่เหมาะสมกับจำนวนสต๊อกที่จะเก็บ วันนี้ผมจะมานำเสนอวิธีแก้ไขสต๊อกดิฟให้ครับว่ามีอะไรบ้าง และในแต่ละวิธีควรทำอย่างไร ผมขอแบ่งการแก้ไขตรงนี้ออกเป็น 4 เรื่องด้วยกัน อธิบายตามด้านล่างเลยครับ

วิธีการแก้ไขสินค้าคงคลังไม่ตรงกัน (สต๊อกดิฟ)

 

  1. จัดทำกระบวนการทำงาน (Procedure) ให้ชัดเจน:

    จุดประสงค์ของการจัดทำกระบวนทำงานนั้นเพื่อให้พนักงานหน้างานสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีมาตรฐานเดียวกัน ในการบวนการทำงานควรระบุการทำงานเป็นขั้นเป็นตอน กระบวนการทำงานที่ดีควรใช้คำศัพท์ที่ง่าย ไม่ซับซ้อน หากมีภาพประกอบก็จะทำให้ชัดเจนมากขึ้นด้วย ถ้าใครก็ตามมาอ่านกระบวนการทำงานนี้ จะต้องเข้าใจได้ง่ายและปฏิบัติงานได้เหมือนกัน นอกจากนี้แล้วกระบวนการทำงานควรครอบคลุมไปถึงตัวชี้วัดเพื่อเป็นการควบคุมการทำงาน

  2. อบรมพนักงานให้มีวินัยอย่างเคร่งครัด:

    หลังจากที่เรามีกระบวนการทำงานเรียบร้อยแล้ว ต่อมาคือการอบรมพนักงานให้เข้าใจในขั้นตอนการทำงาน สต๊อกประเภทไหนวางที่ไหน ทำอะไรก่อนหลัง นอกจากนี้บริษัทยังควรอธิบายให้พนักงานเห็นภาพใหญ่และเข้าใจร่วมกันด้วยว่าถ้าไม่ทำตามกระบวนการแล้ว จะมีผลกระทบอย่างไรบ้างต่อตัวพนักงาน บริษัท และลูกค้าเพื่อที่จะให้พวกเขาตระหนักถึงผลที่ตามมาจากการกระทำ

    forklift in warehouse inventory

     

  3. ทำ Cycle count หรือการนับสต๊อกอย่างสม่ำเสมอ:

    การนับสต๊อกอยู่อย่างเป็นประจำจะช่วยทำให้ของตรงตลอดเวลา บริษัทควรมีการทำนโยบายการนับสต๊อกไว้เพื่อระบุหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้รับผิดชอบ ผู้มีอำนาจอนุมัติ ความถี่ในการนับสต๊อก เมื่อเจอสต๊อกดิฟ ขั้นตอนในการปรับสต๊อกทำอย่างไร

  4. ปรับแผนผังคลังสินค้าให้อำนวยความสะดวกให้กับพนักงาน:

    จากการที่คลังสินค้ามีแผนผังที่เป็นอุปสรรคในการทำงาน ปัญหาพื้นที่ไม่พอ ตรงนี้ผู้จัดการคลังสินค้าสามารถนำข้อมูลสต๊อกมาวิเคราะห์เพื่อดูว่า สินค้าคงคลังมีประเภทใดบ้าง จำนวนสต๊อกเข้าและออกระหว่างวันเป็นเท่าไหร่ จัดพื้นที่ให้เหมาะสมกับเนื้องาน บางทีเมื่อจัดแผนผังใหม่แล้วอาจจะได้พื้นที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้แล้วเมื่อบริษัทได้ปรับปรุงคลังสินค้า อย่าลืมกลับมาดูในระบบด้วยว่า location ที่เปลี่ยนแปลงไปได้ถูกอัพเดทเข้าไปในระบบหรือยัง

จากวิธีแก้ไขทั้ง 4 ที่ว่ามานั้นต้องใช้ความร่วมมือร่วมใจจากทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้องในการผลักดันให้เกิดการจัดการสต๊อกอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งที่บริษัทสามารถเริ่มทำได้เลยนั่นคือการจัดทำกระบวนการทำงานให้มีระเบียบแบบแผน การกำหนดนโยบายการนับสต๊อก (Cycle count) จากนั้นนำแผนงานตรงนี้มาอบรมให้พนักงานให้มีความรู้ ความเข้าใจในขั้นตอนการทำงาน การนับสต๊อก ในขณะเดียวกันก็เริ่มปรับปรุงคลังสินค้าให้ตอบรับกับหน้างาน

 

“ซัพพลายเชน กูรู..รอบรู้เรื่องการบริหารจัดซื้อและซัพพลายเชน”

แชร์บทความนี้

Facebook
LinkedIn

ให้เราเป็นผู้ดูแลคุณ

ด้วยประสบการณ์ด้านการจัดซื้อและการจัดการซัพพลายเชนมากว่า 30 ปี